หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

รับประทานอาหารที่ดีมีคุณภาพ..ส่งผลดีต่อผิวพรรณ

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

          สำหรับทุกท่านที่กำลังเผชิญปัญหาทางด้านผิวพรรณ  ไม่ว่าจะเป็น  ปัญหา   สิว  รอยด่างดำที่เกิดจากสิว  ฯลฯ  ที่ทำให้เกิดความกังวลใจ  วันนี้มีวิธีที่ดีอีกวิธีหนึ่งมาแนะนำ  สำหรับทุกท่านที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพผิว

          -  ปัญหาสิว  คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับทุกคนอยู่แล้ว  เพราะบางที  ไอ้สิวนี่  คิดจะขึ้น  ก็ขึ้นปุ๊บปั๊บ  ตั้งตัวไม่ทันเหมือนกัน  สิ่งที่ควรป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ  ก็คือ  ห้ามนอนดึก  หรือครุ่นคิดแต่เรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์  พร้อมทั้งหัดมีอารมณ์ขันเสียบ้างก็ดีนะคะ

          -  ริ้วรอยที่เกิดจากสิวหรืออื่นๆ  สิ่งนี้หากเกิดกับบางคนคงสูญเสียความมั่นใจไปมากทีเดียว  เพราะใบหน้าคือหน้าต่างของหัวใจก็ว่าได้  หากมีรอยด่างดำเกิดขึ้นบนใบหน้าคงไม่ดีแน่  และหากหลีกเลี่ยงไม่ได้  สิ่งที่ควรป้องกันและแก้ไขก็คือ  ควรใช้ครีมที่มีส่วนผสมในการลดเลือนจุดด่างดำบนใบหน้า  อย่ามองข้ามนะคะช่วยได้จริงๆ  และเมื่อรู้ตัวว่าเป็นสิวง่าย  ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวาน  และมันจนเกินไป  เพราะสาเหตุหลักๆ  ก็คืออาหารพวกนี้ล่ะค่ะ  และเน้นอาหารที่มีส่วนประกอบของวิตามินซีสูงๆ  เพื่อช่วยลดเลือนจุดด่างดำอีกวิธีหนึ่ง

          ลองทำตามดูนะคะ  อาจจะไม่ใช่ทุกเรืองที่สามารถแก้ปัญหา  แต่มันอาจเป็นวิธีที่ดีสำหรับบางคนที่หาทางแก้ไขไม่ได้...และทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้นนี้ควรทำควบคู่กับการออกกำลังกายทุกวัน  ก็จะมีส่วนช่วยได้มากทั้งรูปร่างและผิวพรรณนะคะ  ขอคอนเฟิร์มค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ประโยชน์ของน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสกับปัญหาโรคอื่นๆ ตอน 2

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

-น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กับผื่นแพ้และกลากน้ำนม
               ผู้ที่มีอาการของผื่นแพ้ โดยเฉพาะในเด็กที่เป็นกลากน้ำนม ร่างกายไม่สามารถเปลี่ยนกรดไขมันโอเมก้า 6 ชนิดกรดไลโนเลอิก (Linoleic - LA) ให้เป็นกรดแกมมา ไลโนเลนิก (GLA) ได้ หรือถ้าเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยนได้น้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เนื่องจากขาดเอนไซม์ในปฏิกิริยาชีวเคมีบางชนิด

               หากเด็กจำเป็นต้องกินนมวัวและทำให้เกิดกลากน้ำนม เนื่องจากในนมวัวมีกรดไขมันชนิด กรดไลโนเลอิก (Linoleic - LA) ซึ่งเด็กส่วนหนึ่งไม่มีเอนไซม์บางตัว จึงไม่สามารถเปลี่ยนกรดไขมันดังกล่าวให้เป็นพรอสตาแกลนดิน 1(Prostaglandin E1 – PGE1) แบบนมแม่ได้ จึงเกิดอาการแพ้ขึ้น ดังนั้น น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส จึงช่วยลดอาการแพ้นี้ได้ โดยการทาที่ผิวหนังเพื่อให้น้ำมันซึมผ่านเข้าไป

-น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กับผิวพรรณ

               ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่น ปรับสภาพผิวที่แห้งกร้านให้กลับดูนุ่มนวลสดใส ลดริ้วรอยและความหมองคล้ำของผิวพรรณ ช่วยลดการเกิดสิวอุดตัน ตลอดจนช่วยรักษาอาการผิดปกติทางผิวหนัง เช่น ผิวหนังแห้ง รวมถึงอาการผมร่วง มีรังแค และเล็บเปราะได้

               นอกจากนี้ยังช่วยรักษาอาการโรคเรื้อนกวาง (eczema) ซึ่งทำให้ผู้ป่วยโรคนี้มีอาการลดลงสามารถปริมาณการใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ลงไป

-น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กับ โรคความดันโลหิตสูง
               โรคของหลอดเลือดอันเกิดจากไขมันในเลือดสูง ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและเสียความยืดหยุ่น แรงดันเลือดในหลอดเลือดเพิ่มสูงขึ้นจากความแข็งของเลือด อันเป็นสาเหตุสำคัญของโรคความดันโลหิตสูง การที่หลอดเลือดเพิ่มแรงต้านทานในการไหลของหลอดเลือดจะส่งผลกระทบต่อหัวใจ กล่าวคือ จะต้องออกแรงบีบไล่เลือดไปตามหลอดเลือดที่แข็งตัวแรงกว่าเดิม เป็นเหตุให้ความดันโลหิตเพิ่มตาม

               กรดไขมันจำเป็น คือ กรดแกมมา ไลโนเลนิก (GLA) ใน น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสสามารถลดความดันโลหิตลงได้

-น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กับ โรคหัวใจ
               โรคหัวใจ เกิดจากไขมันในเลือดสูง ทำให้เกิดการอุดตันในหลอดเลือด หลอดเลือดมีขนาดรูแคบลง ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอและเกิดอาการแน่นหน้าอก ปวดในหน้าอก จนกระทั่งหัวใจวายได้ใน น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส มีกรดโอเมก้า 6 ช่วยป้องกันไม่ให้เลือดจับตัวกันเป็นก้อน ป้องกันไม่ให้เกิดตะกอนของไขมันในหลอดเลือด และป้องกันโรคหัวใจได้

-น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กับ โรคไต

               ผู้ป่วยที่ป่วยเป็น โรคไต บางรายที่กินยาบางตัว หรือได้รับสารพิษบางตัว ซึ่งสารเคมีดังกล่าว มักจะไปยับยั้งการสร้างฮอร์โมนพรอสตาแกลนดิน 1 (Prostaglandin E1 – PGE1) แล้วทำให้ไตเสียตามมา การบริโภคกรดไขมันจำเป็นโอเมก้า 6 ชนิด GLA จะสามารถถนอมรักษาไตให้คงสภาพปกติได้นานเนื่องจากการบริโภคน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสเข้าไป จะทำให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนพรอสตาแกลนดิน 1 (Prostaglandin E1 – PGE1) ได้มากขึ้น ส่งผลให้สามารถแก้ไขความเสียหายของไตที่เกิดขึ้นให้กลับคืนสู่ปกติได้

-น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กับ โรคจิตใจ
              โรคจิตเภท (Schizophrenia) เกิดขึ้น เนื่องจากมีความผิดปกติทางชีวเคมีในสมองของผู้ป่วย ทำให้เกิดอาการทางสมอง คือ ควบคุมตนเองไม่ได้ ซึมเศร้า ทำอะไรไม่รู้ตัว ประสาทหลอน ซึ่งอาการดังกล่าวนักวิทยาศาสตร์คาดว่า อาจเป็นเพราะร่างการขาดกรดไขมันจำเป็น ชนิด กรดแกมมา ไลโนเลนิก (GLA) และมีฮอร์โมนพรอสตาแกลนดิน 1 (Prostaglandin E1 – PGE1) ไม่เพียงพอรวมทั้งยังมีกรดไขมันจำเป็นชนิด กรดไลโนเลอิก (Linoleic - LA) น้อยกว่าปกติ ดังนั้น การบริโภค น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส จะทำให้เพิ่มกรดไขมันจำเป็น ส่งผลให้ลดอาการทางจิตใจได้

-น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กับ โรคอัลไซเมอร์
             โรคอัลไซเมอร์ เป็นโรคความจำเสื่อม มักจะเกิดกับผู้สูงอายุ มีอาการหลงลืม โดยสูญเสียความทรงจำเกี่ยวกับปัจจุบันไป แต่สามารถจำอดีตได้ การที่ผู้สูงอายุสูญเสียความทรงจำไปนี้เพราะขาดกรดไขมันจำเป็น ผลก็คือ เม็ดเลือดแดงจะมีเยื่อหุ้มเซลล์แข็งขึ้นกว่าเดิม ทำให้จับออกซิเจนได้ลดลง เป็นผลให้สมองได้รับเลือดไปเลี้ยงน้อยกว่าปกติ จึงเกิดอาการหลงลืม การบริโภค น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส เข้าไป สามารถเพิ่มกรดแกมมา ไลโนเลนิก (GLA) จะทำให้เม็ดเลือดแดงกลับคืนสู่สภาพปกติ กล่าวคือ สมองได้รับออกซิเจนไปเลี้ยงเพิ่มมากขึ้น อาการดังกล่าวข้างต้นก็จะทุเลาลง

-น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กับ โรค ไข้หวัด
             หลังจากการติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัด ร่างกายจะอ่อนเพลียเสมอ ทั้งนี้เพราะการติดเชื้อหวัดจะกระทบต่อการดูดซึมกรดไขมันจำเป็นชนิดกรดไลโนเลอิก (Linoleic - LA) เข้าสู่ร่างกาย อีกทั้งยังยับยั้งการเปลี่ยนกรดไลโนเลอิก (Linoleic - LA) ไม่ให้เป็นกรดแกมมา ไลโนเลนิก (GLA) อีกด้วย
ในขณะที่เป็นหวัด ร่างกายจึงขาดกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า 6 อย่างรุนแรงทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัว และเกิดอาการอ่อนเพลียอย่างรุนแรง ซึ่งการบริโภค น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส จะสามารถบรรเทาอาการหวัดลงได้

-น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กับ โรคตับเรื้อรัง
              ผู้ป่วยโรคตับเรื้อรัง จะมีกรดไขมันจำเป็นในเลือดผิดปกติ โดยมีกรดชนิด กรดไลโนเลอิก (Linoleic - LA) สูงผิดปกติ แต่เมตาโบไลต์ชนิดอื่นในปฏิกิริยาเคมีอยู่ในระดับต่ำ แสดงว่าร่างกายของผู้ป่วยโรคตับเรื้อรังไม่สามารถเปลี่ยน กรดไลโนเลอิก (Linoleic - LA) ให้กลายเป็นกรดแกมมา ไลโนเลนิก (GLA) ดังนั้นฮอร์โมนพรอสตาแกลนดิน 1 (Prostaglandin E1 – PGE1) จึงมีระดับต่ำ ทำให้โรคตับมีอาการกำเริบขึ้น เพราะภูมิต้านทานจะต่ำลง อาการอักเสบมีมากขึ้น เม็ดเลือดขาวทำงานไม่ดี การบริโภค น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส จะสามารถบรรเทาอาการโรคตับลงได้

ปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน
              ปริมาณที่แนะนำของจำนวนของกรดไขมัน GLA ที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันนั้น คือ 240 มิลลิกรัมต่อวัน ดังนั้นปริมาณที่แนะนำของ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส สำหรับรักษาอาการต่างคือ รับประทานครั้งละ 1,000 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง ซึ่งจะเทียบเท่ากับปริมาณ GLA 240 มิลลิกรัมตามที่ต้องต่อวัน

              สำหรับผู้ป่วย เบาหวาน: ปริมาณที่แนะนำให้รับประทานคือ ครั้งละ 1,000 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง ร่วมกับรับประทาน น้ำมันปลา (Fish Oil) อีกครั้งละ 1,000 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง

ข้อแนะนำในการรับประทาน

-รับประทาน น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส พร้อมอาหารเพื่อลดอาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น

-เพื่อให้ได้ผลดีในการใช้ในการรักษาอาการปวดประจำเดือน ดังนั้นเพื่อให้ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส เปลี่ยนเป็น GLA ได้ดีควรรับประทานร่วมกับ Multivitamin (ควรจะประกอบไปด้วย zinc, vitamin C, vitamin B-complex vitamins และ magnesium)

-ในรายที่ต้องการผลด้าน ผิวหนัง ผม และเล็บ อาจจะต้องใช้เวลา 2-6 เดือนกว่าจะเห็นผล

อาการข้างเคียง
ถึงแม้ว่า น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส จะให้คุณประโยชน์ มากมาย แต่สำหรับผู้บริโภคบางรายที่รับประทานเข้าไปแล้ว อาจจะเกิดอาการข้างเคียงได้ อาทิ

-อาการคลื่นไส้ ท้องอืดเฟ้อ
-อาการปวดศรีษะ
-อาการผื่นแพ้
-อาการลมชักกำเริบ

               ในยุคปัจจุบันนี้ ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะบริโภคกรดไขมันอิ่มตัวจากการกินเนื้อสัตว์ นม ช็อกโกแลตมากเกินไป จนกระทั่งกรดไขมันอิ่มตัวเข้าไปแทนที่กรดไขมันจำเป็น ทำให้ร่างกายได้รับกรดไขมันจำเป็นชนิดโอเมก้า 6 ไม่เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาวะที่สมดุล และช่วยป้องกันและบรรเทาอาการของโรคต่างๆ ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ดังนั้นจึงควรบริโภค น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส เพื่อให้ร่างกายเปลี่ยน กรดไลโนเลอิก (Linoleic - LA) เป็น กรดแกมมา ไลโนเลนิก (GLA) ทำให้ร่างกายมีสุขภาพดีในที่สุด 

ขอบคุณที่มาของบทความ :
http://women.thaiza.com/

วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ประโยชน์ของน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอรฺ์เน็ต
                จากการที่ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส อุดมไปด้วย GLA ทำให้มันมีคุณสมบัติที่ดีในการรักษา โดยจะเปลี่ยนรูปเป็น พรอสตาแกลนดิน ที่มีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนในการช่วยให้หน้าที่ต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้มันยังมีคุณสมบัติในการต้านอาการอักเสบที่ดีด้วย

น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสต่ออาการปวดประจำเดือนและอาการก่อนและหลังประจำเดือน
               อาการที่เกิดขึ้นร่วมกันกับการมีประจำเดือน อันได้แก่ อาการปวดศรีษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย วิงเวียนศรีษะ ปวดหลัง รวมถึงอาการคัดหน้าอก เป็นอาการที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้หญิงเป็นอย่างมาก เป็นผลจากการบริโภคอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวมากเกินไป ทำให้ไขมันถูกเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มมากขึ้นในเนื้อเยื่อมดลูก ส่งผลให้มดลูกบีบตัวมากกว่าปกติ ทำให้อาการปวดท้องในขณะที่มีประจำเดือนเกิดขึ้น นอกจากนี้กรดไขมันอิ่มตัวที่มากเกินไปจะทำให้ฮอร์โมนโปรแลคตินเพิ่มมากขึ้น ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้จะทำให้เกิดอาการคัดหน้าอก และทำให้เลือดออกมาก เป็นผลให้เพิ่มการบีบตัวของเลือดในมดลูก ทำให้มีอาการปวดประจำเดือนมากด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ฮอร์โมนโปรแลคตินยังทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปวดศรีษะ ปวดหลัง ปวดเมื่อยรวมถึงอาการอ่อนเพลียขณะมีประจำเดือน

              การบริโภค น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ซึ่งมีกรดแกมมา ไลโนเลนิก (GLA) สามารถช่วยลดอาการปวดประจำเดือน อาการก่อนและหลังประจำเดือน อาการคัดหน้าอก ลงได้ โดยต้องบริโภคทุกวัน ไม่ใช่บริโภคเฉพาะในขณะที่เป็นประจำเดือน เพราะร่างกายต้องการเวลาในการสร้างพรอสตาแกลนดิน 1(Prostaglandin E1 – PGE1) เพื่อให้ช่วยลดอาการปวดให้ลดลง

น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กับ โรคเยื่อบุมดลูกอยู่ผิดที่
              ตามปกติ เยื่อบุมดลูกอยู่ในโพรงของมดลูกเป็นเนื้อเยื่อที่ตอบสนองต่อระดับของฮอร์โมนเพศเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน เมื่อถึงรอบเดือนเยื่อบุมดลูกจะหนาตัวขึ้น เพราะถูกฮอร์โมนเพศกระตุ้นแต่พอฮอร์โมนเพศลดระดับลง เยื่อบุมดลูกจะสลายตัวออกจากโพรงมดลูก หลุดออกมาเป็นประจำเดือนเมี่อออกมาหมดแล้ว และมีฮอร์โมนเพศมากระตุ้นอีก เยื่อบุมดลูกจะหนาขึ้นเหมือนเดิม และเมื่อระดับฮอร์โมนเพศลดลงก็จะออกมาเป็นประจำเดือนของเดือนถัดไป

              แต่ในบางครั้งเยื่อบุมดลูกเกิดอยู่ผิดที่ กล่าวคือ ไม่อยู่ในโพรงมดลูก แต่กลับไปอยู่ที่ รังไข่บ้าง ช่องเชิงกรานบ้าง ดังนั้น เมื่อฮอร์โมนเพศมีระดับสูง เยื่อบุมดลูกที่อยู่ผิดที่จะหนาขึ้น และเมื่อระดับฮอร์โมนเพศลดลงก็จะออกมาเป็นเลือด แต่เลือดที่ออกมานี้จะระบายออกมาทางช่องคลอดเช่นเยื่อบุมดลูกที่อยู่ในโพรงมดลูกไม่ได้ เลือดที่ออกมาจะถูกขังอยู่เป็นถุงน้ำหรือซีสต์ ในรังไข่บ้าง ช่องเชิงกรานบ้าง ซึ่งถ้าก้อนมีขนาดใหญ่ก็อาจจะต้องทำการผ่าตัด ดังนั้นกรดไขมันจำเป็น ซึ่งก็คือ กรดแกมมา ไลโนเลนิก (GLA) ที่มีอยู่ในน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสจึงมีบทบาทต่อโรคเยื่อบุมดลูกอยู่ผิดที่เป็นอย่างมาก กล่าวคือ กรดแกมมา ไลโนเลนิก ถูกเอาไปสร้างพรอสตาแกลนดิน 1(Prostaglandin E1 – PGE1) สามารถบรรเทาอาการอักเสบของก้อนเนื้อได้ ทำให้อาการปวดลดลง


น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสกับโรคไขข้ออักเสบ

               ไขข้ออาจมีโอกาสอักเสบได้ เนื่องจากการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อเข่า ข้อเท้า ข้อมือ ข้อนิ้ว ที่ทำงานหนัก แต่การซ่อมสร้างต้องกระทำอย่างรวดเร็ว เมื่อมีอายุมากขึ้น ความสามารถในการซ่อมสร้างอาการอักเสบของข้อต่างๆของร่างกายนั้นลดน้อยลง จึงเกิดอาการอักเสบและมีอาการปวดข้อในผู้สูงอายุได้ นอกจากนี้ยังมีโรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์ ซึ่งเป็นโรคไขข้ออักเสบหลายๆข้อทั่วร่างกาย เกิดจากภูมิต้านทานไวเกินและมาทำร้ายเนื้อเยื่อของไขข้อและเนื้อเยื่อรอบข้อ ในผู้ป่วยที่เป็นโรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์นี้ จะมีระดับพรอสตาแกลนดิน 1(Prostaglandin E1– PGE1) ที่รักษาอาการอักเสบต่ำมาก แต่มีระดับพรอสตาแกลนดิน 2 ที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบและจ็บปวดมากกว่าปกติ

               โดยปกติ การรักษาอาการอักเสบของข้อเป็นหน้าที่ของพรอสตาแกลนดิน 1 (Prostaglandin E1 – PGE1) ซึ่งมีอยู่ใน น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส จะทำหน้าที่คอยบรรเทาอาการอักเสบและอาการบวมรอบข้อลงได้ 

               จากการศึกษาทดลองใช้ในผู้ป่วยเป็นเวลานาน 6 เดือน พบว่าผู้ป่วยที่รับประทาน น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส จะให้ผลลดอาการปวดและอักเสบตามไขข้อได้ดีกว่ายาหลอกอย่างชัดเจน

น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสกับโรคเบาหวาน
               น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส สามารถช่วยป้องกันอาการเซลประสาทถูกทำลายจากโรค เบาหวาน จากการวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่า GLA ใน อีฟนิ่งพริมโรส สามารถช่วยป้องกันอาการดังกล่าวได้ และในบางรายยังสามารถทำให้เซลประสาทคืนกลับมาเหมือนเดิมได้ด้วย อาการปลายประสาทอักเสบ (neuropathy) นั้นจะพบได้บ่อยในผู้ป่วยโรค เบาหวาน จากการศึกษาที่นานนับปี มีผลวิจัยออกมาว่าอาการชาตามปลายประสาท อาการเจ็บปวดแปลบๆ และอาการสูญเสียความรู้สึกในผู้ป่วย เบาหวาน จะลดน้อยลงจากชัดเจนในรายที่รับประทาน น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทาน

ขอบคุณที่มาของบทความ :

วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วิธีเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับผิวหน้า


ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต
         อีกหนึ่งเคล็ดลับกับการถนอมผิวหน้าให้ดูสดใสไร้ริ้วรอย  เพียงคุณนำเอาใบบัวบกมาปั่นกรองเอาแต่น้ำ  จากนั้นให้นำน้ำใบบัวบกที่ได้มาทาพอกให้ทั่วใบหน้า  ทิ้งไว้ประมาณ  15-20  นาที  จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด  ซึ่งคุณควรบำรุงผิวหน้าด้วยวิธีนี้ให้บ่อยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้  เพราะใบบัวบกเป็นพืชตามธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมา  เพื่อช่วยชะลอริ้วรอยเหี่ยวย่นได้เป็นอย่างดี

ขอบคุณที่มาของบทความ :
143    เคล็ดอ่อนเยาว์ชะลอวัย  หน้า 38

วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อาหารเพื่อดวงตาคู่สวยของคุณ


ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต
คุณรู้หรือไม่ว่า  ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่  ไม่ว่าจะเป็น  สตรอเบอร์รี่  บลูเบอร์รี่  และราสพ์เบอร์รี่  ซึ่งอุดมไปด้วยคุณค่า  อันประกอบไปด้วยสารฟลาโวนอยด์  มีสาระสำคัญคือ  แอนโธไซยานิน  ซึ่งมีคุณสมบัติโดดเด่นเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น  ลดความเมื่อยล้าของดวงตา  เพื่อสุขภาพตาที่ดีของทุกคนในครอบครัว  ผสานกับลูทีน  สารอาหารบำรุงสุขภาพดวงตา  ปกป้องจอตาจากแสงสีน้ำเงินที่เป็นอันตราย  เช่น  แสงจากดวงอาทิตย์  จอคอมพิวเตอร์  โทรทัศน์  หลอดไฟ  มีส่วนช่วยชะลออาการจอประสาทตาเสื่อม  ลูทีนจะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในดวงตา  ร่างกายเราไม่สามารถสร้างลูทีนขึ้นมาได้เอง  จึงได้รับจากการรับประทานเท่านั้น  

วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วิธีรักษาสิวอักเสบด้วยตัวเองง่ายๆ

          
ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต
               หลายๆ  คนคงมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสิวมาให้ต้องวุ่นวาย  วันนี้มีวิธีดีๆ  ง่ายๆ  เหมาะสำหรับรักษาสิวหัวช้างที่สุด  ซึ่งคุณสามารถทำได้ด้วยตัวคุณเองค่ะ  มีขั้นตอนง่ายๆ  ดังนี้
·       เมื่อคุณเกิดเป็นสิวหัวช้าง  อย่าเพิ่งตกใจนะคะ  ห้ามเอามือไปบีบเด็ดขาด  เพราะนั่นคือการกระตุ้นให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิวได้โดยง่าย
·       รอให้สิวหัวช้างเป็นหนองก่อน
·       เมื่อสิวเกิดเป็นหนองหรือมีหัวเหลืองๆ  ปรากฏให้เห็นคุณอาจจะใช้นิ้วกดเบาๆ  เพื่อกระตุ้นให้น้ำเหลืองไหลออกมา  เมื่อมั่นใจว่าหัวสิวออกหมดแล้วให้คุณเตรียมผงวิเศษ  หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปค่ะ
จากนั้นนำผงพิเศษผสมน้ำเล็กน้อย  แล้วนำมาแปะที่สิว  ทำก่อนนอนยิ่งดี  แปะทิ้งไว้เลยถึงเช้าจะดีมาก  ผลที่ได้คือสิวคุณจะยุบทันทีค่ะ

วันเสาร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2554

ทำสีผม...ลดวัย

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต



          สีผมที่ดูดำเข้ม  ซึ่งจะเป็นสีผมหลักๆ  ของคนไทย  อาจจะทำให้สาวๆ  ดูเคร่งขรึม   และดูเกินวัยไปได้เหมือนกัน
การทำสีผมให้อ่อนลง  ก็จะช่วยเสริมให้ดูเด็กลงได้นะ 
แถมยังช่วยปิดผมขาวที่อาจแทรกมาตามวัยได้อีกด้วย
          คุณไม่จำเป็นต้องไปทำสีผมที่ร้านเสริมสวยก็ได้  เพราะนั่นจะทำให้คุณหมดเงินมากเกินไปเปล่าๆ  แต่ถ้าไม่มีเวลาจริงๆ  ก็ไม่ว่ากัน
          ทุกวันนี้คุณสามารถเปลี่ยนสีผมได้ง่ายๆ  ด้วยตัวเอง  เพียงคุณไปเลือกสีผมที่คุณต้องการ  ตามผลิตภัณฑ์สำหรับเปลี่ยนสีผมที่ขายกันอยู่ทั่วไป  และนำมาทำตามคำแนะนำที่เขียนไว้ภายในกล่อง  เท่านี้คุณก็จะได้สีผมตาที่ต้องการแล้ว

ขอบคุณที่มาของบทความ
143  เคล็ดอ่อนเยาว์ชะลอวัย  หน้า 22

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

โปรแกรมล้างพิษ 1 วัน (สัปดาห์ละ 1 ครั้ง)

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต
              โปรแกรมนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เริ่มทำการล้างพิษเป็นครั้งแรก  เริ่มต้นด้วยการกำหนดวันที่คุณจะทำการล้างพิษ  ควรเลือกเอาวันที่มีกิจกรรมน้อยที่สุด 
(เพราะขณะที่เข้าโปรแกรมล้างพิษคุณคงไม่มีเรี่ยวแรงมากพอจะทำอะไรหนักๆ  ได้)  จัดกิจกรรมเบาๆ  เช่น  อ่านหนังสือ  นวดน้ำมันหอมระเหยสักชั่วโมงหรือนวดหน้าด้วยสมุนไพร  งีบหลับตอนบ่าย  ฟังเพลงเบาๆ  สบายๆ
·       ดื่มน้ำผัก-ผลไม้บ่อยแค่ไหนใน  วัน
ไม่ว่าคุณจะเลือกดื่มน้ำผัก-ผลไม้สูตรใดก็ตาม  ตลอด  มื้อของวันนั้นควรจะดื่มสูตรเดียวเท่านั้น  เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานน้อยที่สุด  (มื้อละ  แก้ว  ประมาณ  250  มิลลิลิตร)
ในระหว่างมื้อควรดื่มน้ำเปล่ามากๆ  หรือจะให้ดียิ่งกว่าควรจะเป็นน้ำแร่  (ประมาณ  ลิตร/วัน)  หรือจะเป็นน้ำชาสมุนไพรชนิดเจือจางอุ่นๆ  เช่น  ชาคาโมมายล์  ชาสาระแหน่  เพื่อชำระล้างระบบย่อยอาหารให้สะอาดยิ่งขึ้น
การดื่มน้ำระหว่างโปรแกรมล้างพิษนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญมาก  ยิ่งถ้าปัสสาวะใสสะอาดได้จะยิ่งดี  แต่ถ้าหากมีสีเหลืองหรือสีคล้ำแสดงว่าดื่มน้ำไม่เพียงพอ  และให้รีบดื่มน้ำทันทีที่คุณรู้สึกกระหาย

ขอบคุณที่มาของบทความ
น้ำผัก-ผลไม้ล้างพิษ เพื่อความสวยใส-สุขภาพดี หน้า 22 (อภิสิทธิ์ วรวิจิตรสกุล)

วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554

การบริหารใบหน้า


ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต
          หลายๆ  คนมักจะมีความเชื่อว่า  การบริหารใบหน้าโดยการขมวดผิวหน้าไปมาเป็นประจำ  จะทำให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้า   และผลพวงที่ได้อีกนั่นก็คือ 
ผิวพรรณใบหน้าที่กระชับขึ้น  แก้ปัญหาริ้วรอยได้อย่างชะงัด
          แต่ความจริงแล้ว  ไม่ใช่เลย  การบริหารใบหน้าอาจจะมีส่วนถูกอยู่ที่ได้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้าให้หายเมื่อยเท่านั้น  และการบริหารใบหน้าเป็นประจำ  จะกลับทำให้เกิดริ้วรอยให้เด่นชัดขึ้นไปอีกต่างหาก  ทางที่ดีก็หาวิธีผ่อนคลายแบบอื่นดีกว่านะ

ขอบคุณที่มาของบทความ
143  เคล็ดอ่อนเยาว์ชะลอวัย  หน้า 54 

วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

สารมหัศจรรย์ในน้ำผัก-ผลไม้

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต
·       คลอโรฟีลล์  ผักใบเขียวนั้นเต็มไปด้วยสารคลอโรฟีลล์  ซึ่งสารนี้จะช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง  ทำให้เจริญอาหารและช่วยทำความสะอาดในส่วนต่างๆ  ได้ดี
·       กรดผลไม้และเพ็กติน  น้ำผลไม้ช่วยล้างพิษได้ดีกว่าน้ำผัก  เพราะเต็มไปด้วยกรดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย  ซึ่งจะเปลี่ยนสภาพเป็นด่างทันทีที่ถูกย่อย  กรดผลไม้จะช่วยขับแก๊ซที่เกิดจากแบคทีเรียและสารพิษต่างๆ
·       เอนไซม์  ผัก-ผลไม้สดเต็มไปด้วยเอนไซม์  ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายย่อยน้ำผัก-ผลไม้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ  จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมคุณถึงรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที  หลังจากที่คุณดื่มน้ำผัก-ผลไม้สดเข้าไป  นั่นเป็นเพราะว่าสารอาหารต่างๆ  จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิตอย่างรวดเร็วอันเนื่องมาจากการทำงานของเอนไซม์นั่นเอง
·       ไฟโตเคมิคอล  สารนี้ที่สำคัญๆ  ได้แก่
1.       เบต้าแคโรทีน  พบมากในแครอตและผักใบเขียวเข้ม  ผลไม้สีเหลือง-สีแดง  ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ  เป็นสารองค์ประกอบของวิตามิน A
2.       เควอเซติน  เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในแอปเปิลและแครนเบอร์รี่
3.       ไลโคปีน  ช่วยต้านมะเร็ง  พบมากในมะเขือเทศ
4.       ไอโซฟลาโวนส์  พบมากในอาหารที่ทำจากถั่วเหลือง
5.       ซัลโฟราเฟน  กลูโซซิโนเลท  สารต้านอนุมูลอิสระที่พบมากในบร็อกโคลี่
6.       เอลเลอจิกเอซิด  สารต้านความชราที่พบมากในบลูเบอร์รี่และองุ่น
7.       ไอโคล-3 คาร์บินอล  สารต้านอนุมูลอิสระที่พบมากในผักชนิดต่างๆ  เช่น  กะหล่ำปลี  กะหล่ำดอก  คะน้า  ถัวงอก  หัวไชเท้า
·         แอนติออกซิเดนต์  (สารต้านอนุมูลอิสระ)  ถ้าหากคุณได้รับสารเหล่านี้เข้าไป  จะทำให้ผิวพรรณของคุณกลับมาเต่งตึง  สดใส  เหมือนวัยหนุ่มสาวได้อีกเนิ่นนาน
·         กรดโฟลิก  (Folic)  สารที่ทำให้เล็บและเส้นผมแข็งแรง  ซึ่งมีมากในผัก-ผลไม้เช่นกัน

ขอบคุณที่มาของบทความ
น้ำผัก-ผลไม้ล้างพิษ เพื่อความสวยใส-สุขภาพดี หน้า 18 (อภิสิทธิ์ วรวิจิตรสกุล)

พลังบริสุทธิ์ของน้ำผัก-ผลไม้

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต
          น้ำผัก-ผลไม้มีประโยชน์กว่าน้ำเปล่าหลายเท่า  เมื่อคุณดื่มระหว่างล้างพิษ  น้ำเปล่าไม่เพียงแร่ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้นและช่วยขับของเสียออกจากร่างกายเท่านั้น 
แต่น้ำผัก-ผลไม้จะให้พลังงานจากน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรต  รวมทั้งวิตามินแร่ธาตุอีกมากมายหลายชนิด
          สำหรับน้ำผัก-ผลไม้บรรจุกล่องหรือกระป๋องที่มีจำหน่ายอยู่ตามร้านค้าและซูเปอร์มาร์เกตทั่วไปนั้น  มักต้องผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรส์  U.H.T.  หรือระบบฆ่าเชื้อโรคอื่นๆ  หรือผลิตจากหัวเชื้อ  เพิ่มความหวานด้วยน้ำตาล  เพิ่มสีสันด้วยสีผสมอาหาร  เติมกลิ่นแต่งรสชาติหลากชนิด  และใส่วัตถุกันเสีย  ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นวิธีที่ลดทอนคุณค่าทางโภชนาการ  และยังทำให้คุณได้รับสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายโดยไม่จำเป็นอีกด้วย  น้ำผัก-ผลไม้ที่คุณทำเองกับมือจึงให้คุณค่าทางโภชนาการสูงกว่า  ปลอดภัยไร้สิ่งเจือปนและราคาก็ถูกกว่ากันมาก

ขอบคุณที่มาของบทความ
น้ำผัก-ผลไม้ล้างพิษ เพื่อความสวยใส-สุขภาพดี หน้า 17 (อภิสิทธิ์ วรวิจิตรสกุล)

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

การทาครีมกันแดด

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต
          แสงแดดคือศัตรูฆ่าความอ่อนวัยของผิวให้หมดไป  ถ้าไม่มีความจำเป็นใดๆ  ที่จะต้องเผชิญกลางแดดจัด  ก็ควรหลีกเลี่ยงซะ  แต่ถ้าต้องสู้แดดด้วยความจำเป็น  ก็ควรทากันแดดที่มี  SPF  สูงๆ 
ร่วมกับการปกป้องผิวด้วยการกางร่ม  ใส่หมวก  หรือเสื้อแขนยาวเพื่อไม่ให้ผิวขาดความชุ่มชื้นจนแห้งกร้าน  ซึ่งเป็นการบ่อนทำลายความอ่อนวัยของผิวให้หมดไป
          อย่าพยายามทำใจกล้าสู้แดดโดยไม่มีเกราะป้องกันใดๆ  ทั้งสิ้น  เพราะมันเป็นการเชื้อเชิญริ้วรอย  และความแก่ให้เข้ามาหาเราได้อย่างไม่รู้ตัว

ขอบคุณที่มาของบทความ
143  เคล็ดอ่อนเยาว์ชะลอวัย  หน้า 55

เทคนิคชะลอวัย

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต
               จะแต่งหน้าเสริมสวยให้ดูลดวัยกันทั้งที  ก็ควรจะทราบเคล็ดลับเล็กๆ  น้อยๆ  เหล่านี้เอาไว้
·       อย่าใช้รองพื้นโปะกับแป้งฝุ่นให้หนามากเกินไปในส่วนที่ต้องการปกปิดริ้วรอยบนใบหน้า
  เพราะแทนที่จะทำให้รองพื้นทำหน้าที่ช่วยปกปิดริ้วรอยลดวัย  แต่กลับจะไปเน้นให้เห็นชัดขึ้นมากกว่า
·       ส่องกระจกดูใบหน้าเปลือยๆ  ในที่ที่มีแสงสว่างชัดเจนเพื่อดูถึงสีผิวที่เป็นธรรมชาติ  ซึ่งคุณจะพบว่าใบหน้าของคนเรามีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอกัน  ตรงไหนที่ดูคล้ำ  ก็ให้ใช้รองพื้นเกลี่ยเพิ่มความสว่างให้กับใบหน้า

ขอบคุณที่มาของบทความ
143  เคล็ดอ่อนเยาว์ชะลอวัย  หน้า  48

อยู่อย่างมีความสุข...แก่ช้า

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต
          จงจำไว้ว่าชีวิตของคนเรานั้นสั้นยิ่งนัก  อะไรที่ทำแล้วมีความสุข (ไม่เดือดร้อนใคร) ก็รีบกอบโกยให้เต็มที่  นอกจากนั้นผลพวงที่จะได้นอกจากความสุขสบายใจแล้ว  ยังทำให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรงแก่ช้าพ่วงไปด้วยอีกต่างหาก
          การเสริมสร้างความสุขก็มีหลายรูปแบบ  ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์ของแต่ละบุคคล  แต่วิธีการสร้างโลกส่วนตัวแบบสุดๆ  ที่จะขอแนะนำให้ไปปฏิบัติกัน  ให้พอยิ้มได้ในแต่ละวัน  ดังนี้
·       หลับตาจินตนาการ  ถึงธรรมชาติที่คุณโปรดปราน
·       ไม่ว่าจะเจอะอะไรก็หัวเราะและยิ้มเข้าไว้
·       หันไปกอดเพื่อนหรือคนใกล้ตัว
·       สูดดมกลิ่นหอมที่โปรดปราน
·       รักและมีความรู้สึกดีๆ  กับงานที่ทำ
·       เหนื่อยนักก็พักสิ  ง่ายจะตาย
·       มองอะไรที่เป็นสีส้ม

ขอบคุณที่มาของบทความ
143  เคล็ดอ่อนเยาว์ชะลอวัย  หน้า 57

วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554

6 วิธีบำรุงผิวพรรณให้อ่อนเยาว์

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต
          เพื่อเป็นการดูแลรักษาผิวพรรณไม่ให้แก่ร่วงโรยไปตามกาลเวลาหรือแซงหน้าอายุของคุณที่จะทำให้ดูแก่ไปโดยไม่อาจปฏิเสธได้
          หลักง่ายๆ  ที่จะทำให้คุณพ้นจากความแก่ของผิวพรรณ  คุณควรปฏิบัติตามข้อแนะนำ  วิธี  ดังกล่าวนี้อย่างสม่ำเสมอ
1.       ทุกมื้ออาหาร  ควรมีผักสดๆ  รับประทานด้วยเสมอ
2.       ในแต่ละวันควรดื่มน้ำเปล่าสะอาดๆ  วันละ  แก้วเป็นอย่างต่ำ  เพื่อความชุ่มชื่นที่จะส่งมาถึงผิวพรรณ
3.       บ้านเมืองเราค่อนข้างมีอากาศที่ร้อนชื้น  สภาพผิวจึงมันได้ง่าย  การล้างหน้าบ่อยๆ  ไม่ได้เป็นการดูแลผิวให้ดีขึ้น  ใน  วัน  ควรล้างหน้า  ครั้ง  แล้วทาครีมบำรุงบางๆ  ก็พอแล้ว
4.       ไม่ว่าจะแต่งหน้าหรือไม่ได้แต่งก็ตาม  ทุกๆ  วันก็ควรล้างหน้าให้สะอาดหมดจดก่อนเข้านอน
5.       หลังจากการดูแลทำความสะอาดผิวหน้าแล้วก็ควรใช้นิ้วนวดเบาๆ  เป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้าก่อนนอนเพื่อลดความเครียด  และทำให้เลือดไหลเวียนบนผิวหน้าได้ดีขึ้น
6.       สุดท้ายก็คือ  ไม่ควรขาดการออกกำลังกาย  เพราะการออกกำลังกายจะทำให้สุขภาพดี  ซึ่งส่งผลในเรื่องของความงามได้อย่างชัดเจนที่สุด

ขอบคุณที่มาของบทความ
143  เคล็ดอ่อนเยาว์ชะลอวัย  หน้า 15

เหตุผลที่คุณต้องล้างพิษด้วยน้ำผัก-ผลไม้

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต
1.       ถ้าคุณสูบบุหรี่
บุหรี่ไม่เพียงแต่ทำให้คุณมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งและโรคหัวใจ  มันยังทำให้อัตราการดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุลดลงอีกด้วย  โดยเฉพาะวิตามิน C กับวิตามิน B การสูบบุหรี่ยังมีส่วนสำคัญในการทำลายเซลล์ต่างๆ  ภายในร่างกายให้เสื่อมประสิทธิภาพเร็วกว่าปกติหรือที่เรียกกันง่ายๆ  ว่าการแก่ก่อนวัย
น้ำผัก-ผลไม้สดที่คุณดื่มเพื่อการล้างพิษนั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ  ที่ทำร้ายคุณอยู่ตลอดเวลาโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย  จนกระทั่งร่างกายของคุณถูกทำลายเสียจนไม่อาจจะฟื้นฟูให้กลับมาสดใสแข็งแรงได้อีก  ยิ่งกว่านั้นน้ำผัก-ผลไม้ยังช่วยให้คุณมีภาวะทางโภชนาการที่ดีอีกด้วย
2.       ถ้าคุณเป็นนักดื่มตัวยง
     แน่นอนว่าการดื่มแอลกอฮอล์ติดต่อกันเป็นเวลายาวนานจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อตับ  ระบบเผาผลาญพลังงาน  และทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินได้น้อยลง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามิน A วิตามิน B1 และวิตามิน C เช่นเดียวกับการดื่มชา-กาแฟในปริมาณที่มากเกินไป
การดื่มแอลกอฮอล์มีผลกระทบต่อระบบการย่อยอาหาร  ทำให้กระเพาะอาหารเต็มไปด้วยแก๊ซ  ท้องอืด  ท้องเฟ้อ  ท้องผูก  และท้องเสียได้  การดื่มน้ำผัก-ผลไม้เป็นประจำสามารถช่วยรักษาอาการเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
3.       ถ้าคุณถูกความเครียดรบกวนตลอดเวลา
ความเครียดส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณโดยตรง  โรคภัยต่างๆ  มักจะเกิดขึ้นได้ง่ายเมื่อคุณอยู่ในภาวะเครียด  เช่น  ปวดหัว  ปวดฟัน  ปวดต้นคอ  นอนไม่หลับ  ขาดสมาธิ  หดหู่ซึมเศร้า  เหนื่อยล้า  ผดผื่นคันตามผิวหนัง  ท้องผูก  และโรคความดันโลหิตสูง
ความเครียดเกิดจากหลายสาเหตุ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน  เรื่องส่วนตัวในครอบครัว  หรือสภาวะแวดล้อมที่ย่ำแย่  ฯลฯ

ขอบคุณที่มาของบทความ
น้ำผัก-ผลไม้ล้างพิษ เพื่อความสวยใส-สุขภาพดี หน้า 15 (อภิสิทธิ์ วรวิจิตรสกุล)

วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554

ทำไมต้องแนะนำให้ล้างพิษด้วยน้ำผัก-ผลไม้

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

          ทุกวันนี้ชิวิตของเราวุ่นวายยุ่งเหยิงกับการทำงาน  ต้องปวดหัวกับบัญชีรายรับรายจ่าย  วิตกกังวลเรื่องครอบครัวและชีวิตคู่  ฯลฯ  ซึ่งล้วนแต่จะนำคุณไปสู่คุณภาพชีวิตที่ย่ำแย่
          การเข้านอนดึกแต่จำเป็นต้องตื่นตั้งแต่ก่อนไก่โห่กลายเป็นเรื่องเคยชิน  ทั้งๆ  ที่มันผิดปกติ  การกินอาหารด้วย                        ความเร่งรีบโดยที่ยังเคี้ยวไม่ละเอียดกลายเป็นเรื่องธรรมดา  การออกกำลังกายกลับกลายเป็นภาระอันยุ่งยากสำหรับหลายคน
          การที่คุณตื่นมาพร้อมกับความอ่อนล้าอิดโรยไม่กระปรี้กระเปร่า  รอบๆ  ดวงตาที่หมองคล้ำราวกับหมีแพนด้า  ผดผื่นที่ขึ้นบนใบหน้าและผิวกาย  เส้นผมที่หยาบกระด้าง  เล็บที่เปราะแตกง่าย  เหล่านี้คือสัญญาณเตือนว่าสุขภาพของคุณกำลังย่ำแย่อย่างเห็นได้ชัด  แต่คุณก็ยังใช้ชีวิตต่อไปโดยไม่สนใจใยดีว่าร่างกายกำลังต้องการเยียวยา
          การล้างพิษด้วยน้ำผัก-ผลไม้  คือการเริ่มต้นคุณภาพชิวิตที่ดีที่สุดวิธีการหนึ่ง  ซึ่งต้องการชี้ให้เห็นว่าสุขภาพที่กำลังร่วงโรยนั้นดีขึ้นมาได้ง่ายๆ  ควบคู่ไปกับความอร่อย  จนสารพัดเมนูเด็ดที่คัดสรรมาให้คุณนับร้อยสูตร  แล้วคุณจะรู้สึกสนุกและเพลิดเพลินกับการล้างพิษด้วยน้ำผัก-ผลไม้ทุกเวลา  จนเกิดความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน

ขอบคุณที่มาของบทความ
น้ำผัก-ผลไม้ล้างพิษ เพื่อความสวยใส-สุขภาพดี หน้า 14 (อภิสิทธิ์ วรวิจิตรสกุล)

วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2554

คุณภาพชิวิตกับการล้างพิษ

ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต
          ถ้าถามใครๆ  ว่า  อะไรที่พวกเขาคิดว่าจะทำให้คุณภาพชิวิตดีขึ้น  มักจะมีคำตอบจากหลายๆ  คนว่าสิ่งนั้นคือ  ความแข็งแรงของร่างกาย  เพราะหากปราศจากโรคภัยแล้วเท่ากับการได้ลาภที่ประเสริฐที่สุด
          การจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอยู่เสมอนั้น  เราต่างทราบดีว่าควรกินอาหารให้ครบทั้ง  หมู่  แต่เราก็ยังคงบริโภคอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ  อย่างไม่ถูกต้องทั้งที่รู้ว่ามีประโยชน์ขนาดไหน
          น้ำผัก-ผลไม้  เป็นทางออกที่แสนง่ายดายที่จะทำให้คุณได้คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน  เป็นการรักษาสุขภาพแบบประหยัดที่คุ้มค่ามากที่สุดแถมยังอร่อยลิ้นอีกด้วย
          การทำน้ำผัก-ผลไม้สดๆ  นั้นมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากอะไรเลยและไม่ควรทำทิ้งเอาไว้เพื่อดื่มในครั้งต่อๆ  ไป  จะต้องทำเพื่อดื่มทันทีจึงจะได้คุณค่าทางอาหารสูงสุด  เกิดประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด
          การล้างพิษส่งผลดีต่อร่างกายได้ยั่งยืนมากกว่าการดูแลทนุถนอมผิวพรรณด้วยครีมราคาแสนแพง  หรือเครื่องสำอางที่โฆษณาสรรพคุณเกินความเป็นจริงหลายเท่า  ร่างกายที่ได้รับการขับพิษจะมีความฟิต  คุณจะดูสดชื่น  แข็งแรง  กระปรี้กระเปร่า  คล่องแคล่ว  ซึ่งเป็นผลมาจากการกินอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ  ตามความต้องการของร่างกายอย่างเต็มที่

ขอบคุณที่มาของบทความ
น้ำผัก-ผลไม้ล้างพิษ เพื่อความสวยใส-สุขภาพดี หน้า 13 (อภิสิทธิ์ วรวิจิตรสกุล)